โกจิเบอร์รี่ หรือ เรามักรู้จักกันในชื่อ “เก๋ากี้” โกจิเบอร์รี่เป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ มีลักษณะเป็นผลเล็กๆสีแดงอมส้ม รสชาติเปรี้ยวอมหวาน มีถิ่นกำเนิดมาจากทางตอนเหนือของประเทศจีน หากพูดชื่อ “เก๋ากี้” ทุกคนน่าจะนึกถึงสมุนไพรจีนที่มักจะพบในเมนูจำพวกแกงจืด เครื่องตุ๋นยาจีนหรือในขนมหวาน และปัจจุบันโกจิเบอร์รี่ถูกนำมาแปรรูปเป็นชาสมุนไพรและใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่รับประทานได้ง่ายขึ้น โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินซี อีกทั้งยังให้แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด ได้แก่ เหล็ก ซีลีเนียม แคลเซียม เป็นต้น นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยสารที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระอย่างสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) เช่น ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ในปริมาณที่มากกว่าผักและผลไม้ชนิดอื่น โกจิเบอร์รี่จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพที่ให้ประโยชน์ทั้งในด้านสุขภาพ โดยมีสรรคุณช่วยลดความเสี่ยงในเกิดโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความชราของเซลล์ต่างๆ บำรุงสายตาและยังช่วยดูแลในด้านความงาม โดยช่วยบำรุงผิวพรรณให้แลดูอ่อนกว่าเยาว์อยู่เสมอ

5 ประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ที่คุณยังไม่รู้

  1. บำรุงสายตา

โกจิเบอร์รี่ให้ทั้งลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งเป็นสารที่พบว่ามากบริเวณเซลล์รับภาพของจอประสาทตา สารเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการกำจัดเหล่า free radicals ที่เกิดในบริเวณเซลล์รับภาพของจอประสาทตาและยังพบว่าสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ในโกจิเบอร์รี่จะช่วยกรองแสงสีฟ้าและลดการสะท้อนของแสง อีกทั้งยังช่วยป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตาและชะลอการเสื่อมของจอประสาทได้อีกด้วย โกจิเบอร์รี่จึงเหมาะมากๆสำหรับคนวัยเรียนและวัยทำงานที่จ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ

  1. มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง

โกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) และโพลิฟีนอล (polyphenol) ในปริมาณที่สูงกว่าผลไม้ทั่วไป ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจาการทำลายของ free radicals ที่เกิดขึ้นจากมลภาวะที่เราเจอในแต่ละวันจึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะในร่างกายได้ ซึ่งความเสื่อมเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆในอนาคต เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น และเสริมฤทธิ์ด้วยซีลีเนียมในผลโกจิเบอร์รี่ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน

  1. บำรุงผิวพรรณ ลดเลือนริ้วรอย

สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่พบในผลโกจิเบอร์รี่ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆได้แล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านความงามอีกด้วย พบว่าสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoid) และโพลิฟีนอล (polyphenol) จะช่วยชะลอความชราของเซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมถึงเซลล์ผิวหนังด้วยจึงส่งผลในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย อีกทั้งโกจิเบอร์รี่ยังให้วิตามินซีสูงที่มีหน้าที่ในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อบาดเจ็บหรือแผลต่างๆให้หายเร็วขึ้น และยังช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังอีกทำให้ผิวพรรณสดใสยิ่งขึ้น

  1. เสริมภูมิคุ้มกัน

โกจิเบอร์รี่มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและช่วยยับยั้งการแบ่งเซลล์ของเซลล์มะเร็ง โดยโกจิเบอร์รี่มีสารกลุ่ม polysaccharide ที่จะทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวมาสู้กับเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสที่เข้าสู่ร่างกาย จากการศึกษาในผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีจำนวน 60 คน รับประทานน้ำโกจิเบอร์รี่เข้มข้นวันละ 120 ml ต่อเนื่อง เป็นเวลา 30 วัน พบว่าน้ำโกจิเบอร์รี่มีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ทาน

  1. ทางเลือกของคนลดน้ำหนัก

โกจิเบอร์รี่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยู่ในลดน้ำหนัก เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงจึงช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลจึงส่งผลในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วย  ช่วยลดความรู้สึกอยากอาหารลงและยังช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น อีกทั้งไฟเบอร์เหล่านี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายและลดอาการท้องผูกได้อีกด้วย นอกจากนี้โกจิเบอร์รี่ยังมีค่า GI (glycemic index) ต่ำ การทานผลไม้ที่มีค่า GI ต่ำเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ดีในการลดน้ำหนัก เนื่องจากผลไม้ที่มีค่า GI ต่ำๆ จะค่อยๆถูกย่อยกลายเป็นน้ำตาลทีละนิดจึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี อีกทั้งยังไม่ทำให้รู้สึกหิวง่ายอีกด้วย

ทราบถึงประโยชน์ที่หลากหลายของโกจิเบอร์รี่กันไปแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมโกจิเบอร์รี่จึงถูกจัดเป็นหนึ่งใน superfood นับว่าเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพและความงาม ซึ่งถือว่าเป็นการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ความงามภายนอก สำหรับผู้อ่านที่มีความสนใจที่จะผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของโกจิเบอร์รี่หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถสอบถามได้ทาง Line: @MillionLab นะคะ สามารถปรึกษาได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

หากคุณสนใจผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากโรงงาน รับผลิตอาหารเสริม ที่ได้รับมาตรฐาน GMP CODEX จากบริษัท URS ประเทศอังกฤษ ได้รับรางวัลธุรกิจยอดเยี่ยมจาก ASEAN BUSINESS AWARD ประเทศสิงคโปร์ และคิดค้นสูตรโดยทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สายตรงกว่า 10 ปี

สามารถคลิกที่ เว็บไซต์นี้  ได้เลยค่ะ

References

  1. Amagase, H., & Nance, D. M. (2011). Lycium barbarum increases caloric expenditure and decreases waist circumference in healthy overweight men and women: pilot study. Journal of the American College of Nutrition, 30(5), 304–309. https://doi.org/1080/07315724.2011.10719973
  2. Amagase, H., Sun, B., & Nance, D. M. (2009). Immunomodulatory effects of a standardized Lycium barbarum fruit juice in Chinese older healthy human subjects. Journal of medicinal food, 12(5), 1159–1165. https://doi.org/1089/jmf.2008.0300
  3. Li, X., Holt, R. R., Keen, C. L., Morse, L. S., Yiu, G., & Hackman, R. M. (2021). Goji Berry Intake Increases Macular Pigment Optical Density in Healthy Adults: A Randomized Pilot Trial. Nutrients, 13(12), https://doi.org/10.3390/nu13124409
  4. Ma, Z. F., Zhang, H., Teh, S. S., Wang, C. W., Zhang, Y., Hayford, F., Wang, L., Ma, T., Dong, Z., Zhang, Y., & Zhu, Y. (2019). Goji Berries as a Potential Natural Antioxidant Medicine: An Insight into Their Molecular Mechanisms of Action. Oxidative medicine and cellular longevity2019, 2437397. https://doi.org/10.1155/2019/2437397